วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ไทย กับ E-Sport ระดับโลก

E-Sports เริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่
         การแข่งขัน E-sports นั้นเริ่มแข่งขันกันในช่วงปี 1972 ที่มหาวิทลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเกมที่จัดแข่งขั้นในครั้งนั้นก็คือเกม Spacewar เป็นการแข่งขันภายในมหาวิทลัยกันเอง และอีก 9 ปีต่อมา บริษัท Atari  ที่ตอนนี้ทนกระแสกาลเวลาไม่ไหวปิดตัวไปแล้ว ได้เคยจัดการแข่งขันเกม Space Invaders ซึ่งตอนนั้นมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันมากกว่า 5,000 คนจากทั่วสหรัฐอเมริกากันเลย

10 อันดับเกมที่มีการแข่งขัน E-Sports มากที่สุด

           ในปัจจุบันประเทศไทยได้เริ่มทำความรู้จักกับคำว่า E-Sports หรือกีฬาอิเล็คทรอนิคส์กันมากยิ่งขึ้น การเล่นเกมในประเทศไทยมีผลตอบแทนกันมากขึ้น เกมเมอร์ในประเทศไทยมีรายได้จากเกมกันมากขึ้น แต่ทว่าหากคุณติดตามข่าวสารวงการเกมในไทยและต่างประเทศอยู่เป็นประจำ คุณจะเห็นได้ว่าเกมที่ได้รับความนิยมและมีการแข่งขัน E-Sport บ่อยครั้งในบ้านเรานั้นมักจะมีความแตกต่างจากสากลโลกไปพอสมควรเลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกันไปเช่น นโยบายผู้ให้บริการในประเทศไทย ผลกำไรที่จะนำมาซึ่งการจัดกิจกรรมตอบแทน ไม่มีผู้ให้บริการและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย รสนิยมและทัศนคติต่อเกมของคนไทยและอื่นๆอีกมากมายหลายพันล้านเหตุผล

           วันนี้ทาง GamingDose จะนำข้อมูล 10 อันดับเกมที่มีการแข่งขัน E-Sports มากที่สุดจาก battlefy ระบบสำหรับจัดการการแข่งขันเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกมาให้เกมเมอร์ไทยได้ดูกันว่าในโลกใบนี้เกมอะไรกันแน่นะที่ได้รับความนิยมในกลุ่มเกมเมอร์ที่ชื่นชอบการแข่งขัน E-Sports และมีจำนวนการแข่งขันหรือผู้เข้าแข่งขันกันมากน้อยขนาดไหน ไปเริ่มกันเลยดีกว่า


1. League of Legends
           League of Legends เป็นเกมที่ได้ชื่อว่ามีรายการการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับโลกด้วยตัวเลขผู้เข้าชมจำนวนมหาศาลและยอดผู้รับชมผ่านการถ่ายทอดสดออนไลน์ชนิดที่ว่า ESPN ยังต้องหันมาสนใจและเริ่มมองธุรกิจการถ่ายทอดสดสินค้าประเภทเกมซึ่งต้องยกเครดิตให้กับการบริหารจัดการที่ทาง Riot Games ทำออกมาได้คุ้มค่าเม็ดเงินมหาศาลที่พวกเขามีเลยทีเดียว เกมนี้ในประเทศไทยก็ใช่ย่อยครับมีคนเล่นมากน่าจะติดระดับต้นๆของประเทศเลยซึ่งทาง Garena Thailand ก็มีการจัดการและกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจนมีทีม E-Sports ในประเทศไทยหลายทีมให้ความสนใจและเข้าร่วมการแข่งขันชิงเงินรางวัลมากมาย

2. DOTA 2
            DOTA 2 เกมที่ขับเคี่ยวกับ League of Legends มาอย่างต่อเนื่อง เกม DOTA 2 เองถึงแม้จะไม่มีการแข่งขันแบบลีคที่ชัดเจนเท่า League of Legends แต่ก็มีการแข่งขันอย่าง The International ที่ทั่วโลกต้องตาลุกวาวกับเงินรางวัลที่จะทำให้คุณกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านได้ในทันทีที่ชนะการแข่งขัน เกมนี้ในประเทศไทยนั้นนับได้ว่ามีผู้เล่นไม่น้อยเลยทีเดียวแต่ในส่วนของรายการการแข่งขันนั้นยังไม่หนักแน่นเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับเกมก่อนหน้า แต่ประเทศไทยก็มีทีม MiTH.Trust ที่ทั่วโลกรู้จักและครั้งหนึ่งเคยได้ไปร่วมงานการแข่งขัน The International มาแล้วด้วยเมื่อปี 2011

3. FIFA
             FIFA เกมฟุตบอลที่ได้รับความนิยมในเวทีการแข่งขันเกมฟุตบอลระดับโลกในอดีตโดยก่อนหน้าที่กระแสเกมแนว MOBA จะพุ่งทะลุเพดานบินแบบในปัจจุบัน นอกจากเกม Counter Strike และ Starcraft ก็มี FIFA นี่แหละครับที่มีรายการการแข่งขันที่ผู้เล่นได้ฝึกฝีมือและรอฟาดแข้งกันในงาน World Cyber Games ก่อนที่จะร่วงโรยลงไปในปี 2013 ที่ผ่านมา ในปัจจุบันด้วยทิศทางของวงการเกมและ E-Sport ที่เปลี่ยนไปทำให้การแข่งขัน FIFA ได้ลดลงในต่างประเทศซึ่งสำหรับในประเทศไทยเองแทบจะเรียกได้ว่าสาบสูญกันเลยทีเดียว ถ้าจะมีก็คงเป็นการแข่งขัน ESTC ในงาน Big Festival นี่แหละครับ ส่วนปีนี้จะมีหรือไม่ต้องรอดูกันต่อไป

4. Pokemon
             หลายคนอาจจะงงเป็นไก่ตาแตกว่าเกมอย่างโปเกมอนนี่ก็มันแข่งขันกันได้ด้วยเรอะ หยุดครับ หยุดภาพอดีตสมัยPokemon Gold & Silver ที่ยังต้องเสียบสายลิงค์แล้วเข้ามาสู้กันแบบสมัยก่อนครับ ในบ้านเราเกมโปเกมอนน่าจะลดความ Mass ลงเนื่องจากการ์ตูนที่ไม่ได้เด่นดังแบบเมื่อในอดีตและความหลากหลายของการเล่นเกมที่มีคอนโซลให้เลือกกันมากขึ้น มีเครื่องเล่นเกมพกพาที่ต้องแข่งขันกับทางตลาดของ Mobile Game ทำให้เกมโปเกมอนไม่เป็นที่นิยมมากนักอาจจะยังพอมีกลุ่มแฟนคลับอยู่บ้าง แต่ในต่างประเทศนั้นเกมนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจนทำให้ก่อเกิดการแข่งขันระดับเขตขึ้นมาในญี่ปุ่น เติบโตมาเป็นการแข่งขันระหว่างญีปุ่นฝั่งตะวันออกและตะวันตกโดยอดีตผู้อยู่เบื้องหลังการแข่งขัน WCG จนในปัจจุบันกลายเป็นเกมที่มีการแข่งขันชิงแชมป์โลกกันเลยทีเดียว

5. StarCraft 2
StarCraft เป็นเกมที่ต้องบอกเลยว่าน่าเสียดายเอามากๆที่ในประเทศไทยไม่ค่อยมีรายการการแข่งขันเท่าไหร่นัก เหตุที่ผมต้องบอกว่าน่าเสียดายก็คือการที่ประเทศไทยนั้นมีผู้เล่นระดับโลกอย่าง RedArchon ที่ขาดโอกาสทำให้ได้โชว์ผลงานไม่มากเท่าที่ควร โดย StarCraft ภาคแรกถือเป็นเกมที่มีการแข่งขันสูงมากเมื่อครั้งในอดีตจนกระทั่งมีการเปิดตัวเกม StarCraft 2 และพยายามผลักดันการแข่งขันในประเทศเกาหลีใต้ให้เป็นระบบลีคมืออาชีพ มีการจัดการผู้เล่น มีการแบ่งระดับ ถ่ายทอดสดออกทีวีและอีกหลายสิ่งมากมายซึ่งก็ยังถือได้ว่าการแข่งขัน StarCraft 2 บนเวทีโลกนั้นยังอยู่ในสถานะที่น่าพึงพอใจ

6. Call of Duty
            อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าทาง Activision ผู้จัดจำหน่ายเกม Call of Duty ได้พยายามผลักดันให้เกมตระกูล Call of Duty เป็นมากกว่าสื่อบันเทิงวิดีโอเกมส์แต่ต้องการให้มันเป็นเหมือนกับวัฒนธรรมการเล่นเกมของอเมริกันชน ดังนั้นจึงมีการจัดการแข่งขันเพื่อสร้างมูลค่าของเกมให้มากยิ่งขึ้นโดยเข้าร่วมวงการ E-Sports ในปัจจุบันเกม Call of Duty มีการแข่งขันในประเทศอย่างอเมริกาด้วยจำนวนที่สูงมากจนแทบจะเรียกได้ว่าเหล่าผู้เล่นเกม Call of Duty ได้ผันตัวเองจากการเล่นเกมฆ่าเวลามาเป็นการแข่งขันชิงเงินรางวัลหลายล้านเลยทีเดียวซึ่งทีมดังอย่าง OpTic Gaming ที่ได้รวมตัวมาก่อนกาลนับตั้งแต่ Call of Duty 4: Modern Warfareก็ได้คว้าแชมป์และรับเงินรางวัลไปมากมาย
7. Counter Strike
              Counter Strike เกมยิงสุดคลาสสิกก็ไม่พลาดที่จะติดโผสิบอันดับเกมที่มีการแข่งขัน E-Sports มากที่สุดด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันผมเชื่อว่าหากคุณอยากจะเป็นเป็นนักกีฬา E-Sports ระดับโลกที่มีชื่อเสียง คุณสมควรที่จะเลือกเกมนี้เพราะ Counter Strike เป็นเกมที่มีผู้ให้ความสนใจทั่วโลกและมีการแข่งขันที่นำเสนอได้น่าสนใจเอามากอย่าง Inter Extreme Master และ Dream Hack ซึ่งในอดีตเราก็มีทีมอย่าง Nearly God ที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้เล่นจากประเทศไทยได้เป็นที่รู้จักกันบ้าง ถึงแม้ในปัจจุบัน”พี่แว่น”จะออกมาสร้างกระแสให้ผู้คนหันมาสนใจเกม Counter Strike: Global Offensive กันมากขึ้นแต่ก็น่าเสียดายที่การแข่งขันเกมนี้ในบ้านเรามันน้อยมากซะจนแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีเลยก็ได้

8. Street Fighter
            Street Fighter เกมต่อสู้สุดฮิตที่หลายคนต้องร้องไห้กับความยากในการกดท่าและคอมโบภายในเกม เกมนี้ได้รับความนิยมและมีการจัดการแข่งขันระดับโลกและมีการรวมกลุ่ม Community ในไทยที่ถือได้ว่าไม่ใช่เล็กๆเลยครับ ผมเองเคยได้ไปสัมผัสกับกลุ่มผู้เล่น Street Fighter ในประเทศไทยซึ่งก็น่าดีใจครับที่พวกเขายังคงเหนียวแน่น มีการซ้อมฝึกปรือฝีมือกันเอง มีการจัดแข่งขันเล็กๆภายในกลุ่มเพื่อผสานมิตรภาพรวมไปถึงการติดต่อ Connection กับทางต่างประเทศอยู่อย่างต่อเนื่องราวกับว่าถ้าวันหนึ่งในอนาคตได้มีการจัดแข่งขันครั้งใหญ่ขึ้นมาในบ้านเรา พวกเขาก็พร้อมที่จะฟาดฟันกันอย่างดุเดือดแน่นอน สำหรับเกมเมอร์ชาวไทยการแข่งขันที่มีอยู่และพอเป็นที่รู้จักเชื่อได้ว่าน่าจะเป็นเหมือนเกม FIFA นั่นคือรายการ ESTC ในงาน Big Festival 

9. Battlefield
               EA เคยประกาศกร้าวว่าจะนำเกม Battlefield เข้าสู่วงการ E-Sports และได้มีการเพิ่ม Feature สำหรับการรวมกลุ่มก้อนแก๊งแคลนทีมรวมไปถึงรองรับการ Broadcasting มากยิ่งขึ้น เกม Battlefield ในภาค 3 และภาค 4 ได้มีผู้ให้ความสนใจเข้ามาจัดการแข่งขันกันมากขึ้นไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศไทยก่อนจะเงียบหายกันไปโดยในต่างประเทศเองก็ได้มีการจัดการแข่งขันอยู่อย่างต่อเนื่อง ทีมดังหลายทีมก็เริ่มเปิดรับผู้เล่นสำหรับการสร้างทีมBattlefield ขึ้นมาแต่ดูเหมือนว่าด้วยคอนเซ็ปท์ของตัวเกมที่ไม่ได้เหมาะกับการนำมาเป็นเกมสำหรับ Competitive เท่าไหร่นักก็ทำให้แลดูว่าจะเข็นกันยากนิดนึงครับ ในประเทศไทยเองด้วยคุณภาพของเกมBattlefield 4 ที่ไม่ได้ประทับจับจิตผู้เล่นหน้าใหม่เท่าไหร่นักก็ทำให้กระแสต้องเงียบไป งานนี้ต้องดูช่วงกุมภาพันธ์ปีหน้าครับว่า Battlefield: Hardline จะออกมากอบกู้ศักดิ์ศรีของเกมนี้คืนได้หรือไม่

10. World of Tanks
              World of Tanks เกมนี้ในประเทศไทยถึงแม้จะมีผู้ให้บริการที่ผลักดันตัวเกมอย่างต่อเนื่อง ทุ่มทุนสร้างไม่เบา จัดกิจกรรมไม่ใช่น้อยแต่ด้วยความเฉพาะทางของตัวเกมที่เน้นเจาะกลุ่มคนชอบรถถังมากทำให้ผู้เล่นเกมนี้นั้นมีจำนวนไม่มากนักซึ่งประเทศไทยเราก็มีทีมอย่าง RTA ที่เคยลงแข่งขันในเวทีระดับต่างประเทศมาบ้างแล้ว เกม World of Tanks นี่ได้รับความนิยมในประเทศอย่างเยอรมนี รัสเซียหรือบริเวณรอบนั้นซึ่งพวกเขามีความผูกพันและประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับรถถังทำให้เกมนี้ได้เข้าไปเติมเต็มชีวิตพวกเขาโดยมีการจัดการแข่งขันเงินรางวัลมหาศาลไม่แพ้เกมดังอื่นๆเช่นกัน
ที่มา : http://droidsans.com/e-sports-ep1-introduction-to-electronic-sports
          http://www.gamingdose.com/feature/10-อันดับเกมที่มีการแข่ง/

10 อันดับ Blogger สอนเขียนโปรแกรม และ 10 อันดับ Blogger ที่น่าสนใจ

10 อันดับ Blogger สอนเขียนโปรแกรม

1.กฏระเบียบในเว็บและเพจ (วงการด้วย)
http://kiss-hack.blogspot.com/2013/09/blog-post.html

2.คอร์ดรวมพื้นฐานการแฮค และ เทคนิคที่ใช้แฮค
http://kiss-hack.blogspot.com/2014/12/pentesting-hacking-webapplication.html

3.PHP เบื้องต้น (คุยกันก่อน)
http://kiss-hack.blogspot.com/2013/08/php.html

4.c/c++ robot simulator เรียนรู้การเขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์
http://krumonrobot.blogspot.com/

5.JAVA เบื้องต้น
http://www.javathailand.com/ajax/app/index.php?r=frontend/viewByGroupVdoId&group_vdo_id=1

6.มาพูดถึงเรื่องการ ยิงIP ด้วย Flood ต่างๆกัน
http://kiss-hack.blogspot.com/2013/08/ip-flood.html

7.สร้างแบบฟอร์มลงทะเบียน แบบฟรี Form Free Google Drive
http://kobover.blogspot.com/2014/03/form-free-google-drive.html

8.เขียนโปรแกรมโดยใช้วิชวลเบสิก 2008 (visual basic 2008)
http://code-visual-basic.blogspot.com/

9.สอนเขียน Java ขั้นพื้นฐานพร้อมกับ E-BOOK
http://xn--72c0ahm0b6dtbw6k.blogspot.com/2012/04/java-e-book.html

10.เกี่ยวกับภาษาC
http://kanandnun.blogspot.com/p/c.html


10 อันดับ Blogger ที่น่าสนใจ
อันดับ 1
Pearypie: Make-up Artist/Theatrical Artist : 473,953 likes
        เป็นใครไปไม่ได้เลยเพราะสาวแพรรี่พาย นอกจากจะมีฮาวทูการแต่งหน้าออกมาให้สาวๆได้อัพเดทกันอยู่เสมอ ยังมีทั้งแฟชั่นการแต่งกาย ที่บอกเลยว่ามาแรงแซงทางโค้งจริงๆ



อันดับ 2
แย้ นนทพร ธีระวัฒนสุข : 387,207 like
        ด้วยความที่เป็นพริตตี้สาวมากความสามารถ จึงทำให้ยอดไลค์ของหญิงแย้ มาเป็นอันดับที่ 2 ทั้งแบ่งปันวิธีการดูแลตัวเอง ตั้งหัวจรดเท้า แถมยังเป็นผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเองสุดๆ ทำให้ใครหลายๆคนยกให้หญิงแย้ เป็นไอดอล



อันดับ 3
Sp Saypan : 336,041 likes
        เป็นอีกหนึ่งสาวบิ้วตี้ บล็อกเกอร์ที่มาแรงอยู่ในตอนนี้ สายป่าน หรือใครๆหลายคนอาจจะรู้จักในนามของ ป่านศรี ด้วยความน่ารักและความจริงใจในการรีวิวผลิตภัณฑ์และเทคนิคในการดูแลตัวเองต่างๆ ทำให้สาวๆหลายคนเทใจให้สาว บิ้วตี้ บล็อกเกอร์คนนี้



อันดับ 4
Momay Pa Plearn : 275,791 likes
        โมเม พาเพลิน สาวไทยต่างขนานนามให้เธอว่า " คุณแม่ " ด้านการแต่งหน้าตัวจริง โมเม พาเพลิน ถือว่าเป็นผู้ที่ทำให้สาวๆหลายคนที่คิดจะเริ่มฝึกแต่งหน้า คิดถึงเธอเป็นคนแรก



อันดับ 5
FEONALITA : 182,713 likes
        ทราย ฟีโอนาลิต้า บิ้วตี้ บล็อกเกอร์ที่ใครหลายคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี สาวร่างเล็กคนดังประจำโต๊ะเครื่องแป้งพันทิป เธอมีทั้งเคล็ดลับการดูแลเสื้อผ้าหน้าผม รวมถึงการรีวิวผลิตภัณฑ์ความงามอีกมากมาย



อันดับ 6
Kunginter : 113,099 likes
        กุ้ง อินเตอร์ เป็นบิ้วตี้ บล็อกเกอร์อีกคนหนึ่งที่มีวิธีการดูแลตัวเองแบ่งปันให้ชาวแฟนเพจเสมอ ทั้งการดูแลผิวหน้า ผิวกาย รีวิวผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย จึงทำให้แฟนเพจส่วนใหญ่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย



อันดับ 7
I'm Mayyr - Blog : 78,395 like
        เป็นสาวน้อยน่ารักอีกคนหนึ่ง ที่กลายเป็นที่รู้จักของสาวๆส่วนใหญ่เพราะการแต่งหน้า ทั้งการรีวิวเครื่องสำอางและของใช้คุณภาพดี บวกกับหน้าตาที่น่ารักจิ้มลิ้มทำให้แฟนเพจของคุณเมย์เป็นผู้ชายไม่น้อยเลยทีเดียว



อันดับ 8
Cinnamongal.com : 77,810 likes
        คุณมด บิ้วตี้ บล็อกเกอร์อีกหนึ่งคนที่สาวๆคงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เธอเปิดร้านขนมและยังเป็นที่รู้จักในวงการบิ้วตี้ บล็อกเกอร์ ที่มากความสามารถจริงๆ



อันดับ 9
OnnBaby : 21,729 likes 

        บล็อกเกอร์สาวสุดชิค กลายเป็นที่รู้จักของสาวๆจากการแบ่งปันเคล็ดลับและเทคนิคดีๆในการดูแลตัวเอง และยังเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางที่แพคเกจแสนจะน่ารักกุ๊กกิ๊ก



อันดับ 10
Jelly Fish Makeup Mania : 19,022 likes 
        ปิดท้ายด้วยสาวสวยคนนี้ คุณจูน ที่มีทั้งฮาวทูการแต่งหน้าและยังแบ่งปันเทคนิคในการทำทรงผมต่างๆมากมาย สาวๆหลายคนจึงไม่รีรอที่จะกดติดตามเธอเพื่ออัพเดททริคในการดูแลตัวเองอย่างรอบด้าน



ที่มา: 
http://women.sanook.com/21100/

ประวัติของ Edward Snowden



ประวัติการเรียน
          เมื่ออายุได้ 16 ปี สโนว์เดนย้ายไปอยู่ที่เมืองเอลลิคอตต์ มลรัฐแมริแลนด์พร้อมกับครอบครัว และเข้าเรียนสาขาคอมพิวเตอร์ ที่วิทยาลัยแอนน์ อรันเดล คอมมิวนิตี คอลเลจ และตั้งใจเรียนต่ออนุปริญญา แต่ไม่สำเร็จ
ประวัติการทำงาน
          เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2547 เมื่ออายุได้ 21 ปี เขาเข้ารับใช้กองทัพสหรัฐฯ ด้วยความหวังว่าจะได้เป็นหน่วยรบพิเศษ ที่ไปรบในอิรัก เพื่อช่วยปลดปล่อยประชาชนจากการถูกกดขี่ แต่ระหว่างการฝึกได้เพียง 4 เดือน เขาได้รับอุบัติเหตุขาหักทั้งสองข้าง จึงถูกปลดจากกองทัพ
           ชีวิตพลิกผันไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สังกัดสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NSA ประจำมหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ก่อนเข้าร่วมงานกับซีไอเอ ในตำแหน่งรักษาความปลอดภัยด้านไอที จากนั้น อีก 3 ปีต่อมา เขาถูกย้ายไปประจำที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในตำแหน่งเดิม ก่อนลาออกในปี 2552 เพื่อไปทำงานกับบริษัทเดลล์ และบูซ อัลเลน แฮมิลตัน
บริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทนอก ที่รัฐบาลสหรัฐฯว่าจ้างให้ไปทำงานด้านไอที ให้กับหน่วยซีไอเอ ภายใต้การบังคับบัญชาของ NSA เขาทำงานให้กับเดลล์หลายปี ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่บูธ อัลเลน แฮมิลตัน ซึ่งมีสำนักงานอยู่ที่มลรัฐฮาวาย เขามีบ้านอยู่ที่นั่น และใช้ชีวิตอยู่กับ ลินด์เซย์ มิลส์ แฟนสาวของเขา ซึ่งเป็นนักเต้นรูดเสา ที่คบหากันมา 4-5 ปี
ประวัติการแฉ
         
             ทำเนียบขาวและหน่วยข่าวกรองระดับนำของสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) สำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) พลันสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นราวกับเกิดแผ่นดินไหวระดับ 8 หรือ 9 จากฝีมือการขย่มของคนเล็กๆ คนหนึ่งที่มีพลังมหาศาลสามารถพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินวงการจารกรรมในแดนดินถิ่นอินทรีอเมริกาและทั่วโลกจนปั่นป่วนไปตามๆ กัน

         ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ถึงกับนั่งไม่ติดขณะถูกรุมจวกแทบไม่มีชิ้นดีในคดีสะท้านโลก กรณีไฟเขียวให้ปัดฝุ่นโครงการลับสุดยอดที่ใช้ชื่อรหัสว่า “พริซึม” (prism) มาพัฒนาให้ทันสมัยปูทางให้เอ็นเอสเอ พร้อมด้วยซีไอเอและเอฟบีไอสามารถจารกรรมข้อมูลส่วนตัวของอเมริกันชนและผู้ที่เข้าไปตั้งถิ่นฐานในประเทศนี้ ด้วยการเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์แม่ข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 9 แห่ง ได้แก่ ไมโครซอฟท์, กูเกิล, เฟซบุ๊ก, ยาฮู, แอปเปิล, เอโอเแอล, พาลทอล์ค, สไกป์, และยูทูบ ซึ่งยินยอมพร้อมใจเปิดช่องทางพิเศษนี้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาข้อมูลทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ ภาพถ่าย คลิปเสียง หรือคลิปภาพเคลื่อนไหว

         ไม่นับรวมไปถึงการดักฟังโทรศัพท์ของมะกันชนกว่า 10 ล้านคน ตลอดจนการดักฟังเสียง วีดีโอ ข้อความแชท และการถ่ายโอนข้อมูล ต่างๆ ของสไกป์ หรือโปรแกรมติดต่อสื่อสารระหว่างกันผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยข้อความพร้อมเสียงและภาพจากกล้อง webcam เพื่อสืบสาวหาข้อมูลทุกอย่างที่ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศรวมทั้งอาจเป็นเบาะแสนำไปสู่การจับกุมกับผู้ก่อการร้าย เรียกได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลรวมทั้งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์

         การเหวี่ยงแหจารกรรมข้อมูลส่วนตัวของประชาชนนี้ ขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่ทำเนียบขาวและหน่วยงานจารกรรมทั้ง 3 หน่วย ยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียวมาตลอด ว่าการจารกรรมทุกครั้งจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน และไม่ใช่การล้วงความลับของมะกันชนอย่างกว้างขวางเช่นนี้ แต่จากเอกสารลับหลายชิ้นเผยว่า เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น เอ็นเอสเอได้รวบรวมข้อมูลข่าวสารอิเล็กทรอนิกส์เกือบ 3,000 ล้านชิ้น

          ที่สำคัญ ยังมีการแฉด้วยว่า การสอดแนมของพญาอินทรีอเมริกายังครอบคลุมไปถึงฮ่องกงและจีน แม้จะไม่ได้จารกรรมข้อมูลของกองทัพจีน ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ข้าราชการ และธุรกิจ ซึ่งยิ่งทำให้ทำเนียบขาวหน้าแตกเย็บไม่ติดมากขึ้น เพราะช่วงนี้กำลังประโคมข่าวกล่าวหาจีนว่าได้เปิดฉากโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ รวมทั้งชอบแฮคข้อมูลลับของสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตก

         ทันทีที่ หนังสือพิมพ์การ์เดียนของ อังกฤษ และวอชิงตัน โพสต์ ของสหรัฐฯ ร่วมกันเปิดโปงคดีอื้อฉาวที่สุดในรอบทศวรรษ หรือเรียกสั้นๆ ว่า “พริซึมเกต” ชื่อของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์ของซีไอเอ ซึ่งเพิ่งฉลองวันเกิดครบ 30 ปีเมื่อเร็วๆ นี้ พลันดังเป็นพลุแตก เมื่อยอมเผยโฉมตัวเองว่าเป็นแหล่งข่าวตัวจริงเสียงจริงที่อยู่เบื้องหลังการเปิดโปงข่าวสะเทือนฟ้าสะเทือนดินนี้ เพราะต้องการกระชากหน้ากากของผู้นำวอชิงตันมาตีแผ่ให้โลกได้รับรู้ว่าวอชิงตันได้ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น และสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนมาเนิ่นนานเพียงไร

         ผลการเปิดโปงข่าวนี้ทำให้ชื่อของสโนว์เดนกลายเป็นหนึ่งใน “ตำนานจอมแฉ ” ผู้โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของแดนดินถิ่นอินทรี ตามรอยของแดเนียล เอลล์สเบิร์ก อดีตนักวิเคราะห์ของกองทัพผู้มอบเอกสารลับเพนตากอนซึ่งอัดแน่นด้วยข้อมูลของกระทรวงกลาโหมที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในสงครามเวียดนามให้กับนักข่าวของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์เมื่อปี 2514 หรือดับเบิลยู มาร์ค เฟลท์ อดีตผู้อำนวยการสมทบของเอฟบีไอ เจ้าของฉายา “ดีพโทรท” แหล่งข่าวลับสุดยอดในคดีวอเตอร์เกตของนักข่าวหัวเห็ดของหนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ผู้เพิ่งยอมเผยโฉมตัวเองเมื่อปี 2548 รวมทั้งมอร์เดคาย วานูนู เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคนิวเคลียร์ของอิสราเอลผู้เปิดเผยโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอลเมื่อปี 2529 เป็นเหตุให้ถูกตัดสินจำคุก 18 ปี และพลทหารแบรดลีย์ แมนนิ่ง ที่เปิดโปงเอกสารลับทางการทูตของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ หรือวิกิลีกส์


          สโนว์เดนเคยเป็นเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคกับซีไอเอมานาน 4 ปี ก่อนจะลาออกไปทำงานกับบริษัท บูซ อัลเลน แฮมิลตัน หนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจด้านให้คำปรึกษาชั้นนำของโลกในตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายเทคนิค มีหน้าที่คอยดูแลระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทคู่สัญญาจากภายนอก โดยเฉพาะเอ็นเอสเอ สโนว์เดนจึงมีโอกาสเรียนรู้วิธีเก็บข้อมูลกิจกรรมการสอดแนมของหน่วยสืบราชการลับเอ็นเอสเอและซีไอเอ ซึ่งได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากบทสนทนาและพฤติกรรมของคนจำนวนมาก จอมแฉระดับโลกสารภาพว่าในช่วงแรกๆ เคยเกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากจะเปิดโปงข้อมูลของรัฐบาล แต่สุดท้ายก็ยอมเปลี่ยนใจเนื่องจากข้อมูลลับของซีไอเอส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับประชาชน การเปิดโปงเรื่องเหล่านั้นอาจทำให้มีผู้เดือดร้อนจำนวนไม่ใช่น้อย

          แม้จะมีชีวิตสุขสบาย มีอาชีพที่มั่นคงด้วยเงินเดือนราว 2 แสนดอลลาร์ (ราว 6 ล้านบาท) มีครอบครัวที่ตัวเองรัก มีบ้านพักอันอบอุ่นในฮาวาย แต่ท้ายสุด สโนว์เดนก็พร้อมจะสละความสุขเหล่านี้ เพราะไม่อาจฝืนมโนธรรมที่ว่าไม่อาจปล่อยให้รัฐบาลทำลายความเป็นส่วนตัว ละเมิดเสรีภาพในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนทั่วโลก ผ่านการสอดแนมด้วยเครื่องมือที่รัฐแอบสร้างขึ้น แม้จะรู้ว่ารัฐบาลสามารถสร้างหลักฐานเท็จต่างๆ จนอาจทำให้ตัวเองกลายเป็นคนชั่วร้ายเหมือนเช่นที่เคยทำกับหลายคนมาก่อนหน้าแต่ก็ไม่กลัว เพราะได้เลือกทางเดินใหม่แล้ว พร้อมกับแสดงความหวังว่าเอกสารลับชิ้นนี้จะช่วยทำให้ประชาคมโลกตระหนักว่าอยากอยู่บนโลกแบบไหนแน่

            ด้วยความไม่ประมาท สโนว์เดนได้เตรียมการให้พรักพร้อมก่อนจะเผยแพร่เอกสารลับสุดยอดที่ตัวเองแอบสำเนาไว้จากสำนักงานของเอ็นเอสเอในฮาวาย ด้วยการขอลางาน 2 สัปดาห์ อ้างว่าเพื่อไปรักษาโรคลมบ้าหมู จากนั้นก็บินไปยังฮ่องกงพร้อมเอกสารชุดสุดท้ายที่จะกระชากหน้ากากของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ โดยเจ้าตัวให้เหตุผลที่เลือกฮ่องกงว่าเพราะเป็นดินแดนที่ให้เสรีภาพทางความคิดแก่ผู้มีแนวเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาล และเป็นเพียงสถานที่ไม่กี่แห่งในโลก ที่สหรัฐฯ ไม่สามารถเข้ามาจัดการได้ อย่างไรก็ตาม สโนว์เดนสารภาพว่าอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะแม้ฮ่องกงจะเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน แต่ก็มีกฎหมายเป็นของตนเอง โดยเฉพาะมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐฯ ขณะที่รัฐบาลจีนอาจจะสอดมือเข้ามาควบคุมตัวเองไว้ ในฐานะที่เป็นแหล่งข้อมูลที่มีประโยชน์ หรือกระทั่งซีไอเอเองที่สามารถเสาะหาตัวเองได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อสถานกงสุลสหรัฐฯ เองก็อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักมากนัก

           ในช่วงแรก จอมแฉระดับตำนานคนใหม่ของโลกยืนยันว่าจะไม่หลบซ่อนตัวหรือหลบหนีแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็ไม่ประมาทในฐานะที่เคยทำงานกับหน่วยข่าวกรองที่ทรงอิทธิพลที่สุดมานานหลายปี ทำให้รู้ตัวเองว่าทำเนียบขาวและเอ็นเอสเอไม่มีวันปล่อยให้รอดแน่ ดังนั้น สโนว์เดนจึงมักจะเก็บตัวเงียบในห้องพักในโรงแรมที่ฮ่องกง โดยยอมย่างเท้าออกจากห้องพักแค่ 3 ครั้ง นาน 3 สัปดาห์แล้ว และด้วยความระแวงว่าจะถูกสอดแนม จึงต้องนำหมอนไปเรียงไว้ที่ประตูเพื่อป้องกันการถูกดักฟัง และต้องสวมเสื้อมีฮู้ดสีแดงคลุมศีรษะ รวมทั้งต้องหาอะไรบังแลปท็อปตอนเข้าพาสเวิร์ดเพื่อป้องกันการถูกตรวจจับด้วยกล้อง นอกเหนือจากคอยดูข่าวโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต

            สุดท้าย สโนว์เดนซึ่งประกาศว่าตัวเองไม่ได้เป็น “วีรบุรุษ” ในชั่วข้ามคืนอย่างที่สื่อยกย่อง แต่ที่ทำไปก็เพราะต้องการปกป้องเสรีภาพและความต้องการส่วนตัว และไม่ต้องการอยู่ในโลกที่ปราศจากความลับ ก็หายตัวอย่างลึกลับหลังเช็คเอาต์จากโรงแรม เชื่อกันว่าเตรียมยื่นเรื่องขอลี้ภัยการเมืองในประเทศที่สาม ระหว่างนั้น ได้มีการเปิดการลงชื่อในหน้าเว็บไซต์ของทำเนียบขาวเรียกร้องให้อภัยโทษต่อสโนว์เดนด้วย โดยหากมีผู้ลงชื่อสนับสนุนถึง 100,000 คนภายในวันที่ 9 กรกฎาคม ทำเนียบขาวก็มีหน้าที่ที่จะต้องรับพิจารณา ก่อนส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญ และมีถ้อยแถลงตอบกลับอย่างเป็นทางการ ตามโครงการ “we the people” หรือ “เราคือประชาชน” ที่ประธานาธิบดีโอบามาดำริไว้ เพื่อเปิดโอกาสให้อเมริกันชนสามารถสื่อสารกับรัฐบาลได้โดยตรง

           ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำเนียบขาวและหน่วยงานความมั่นคงต่างเต้นเป็นเจ้าเข้า พยายามตอบโต้ทุกวิถีทางอย่างที่เคยทำมาก่อนหน้า รวมทั้งพยายามจะกระชากตัวสโนว์เดนไปลงโทษให้ได้ เริ่มด้วยการทำลายชื่อเสียงของอดีตลูกจ้างซีไอเอด้วยการการประณามว่าเป็นคนทรยศต่อประเทศชาติ มีการส่งฟ้องศาล 3 ข้อหาด้วยกัน โดยสองข้อหาแรกเป็นความผิดภายใต้กฎหมายจารกรรม อีกข้อหาหนึ่งเป็นข้อหาขโมยทรัพย์สินรัฐบาลจากการนำรายละเอียดโครงการลับสุดยอดมาเปิดเผยผ่านสื่อยักษณ์ใหญ่ แต่ละข้อหามีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ซึ่งการส่งฟ้องนี้เป็นขั้นตอนแรกของการเดินเรื่องให้ฮ่องกงส่งตัวสโนว์เดนกลับประเทศในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน

           นอกจากนี้ ยังมีการกุข่าวว่าเป็นสายลับให้กับจีน การสั่งยกเลิกพาสปอร์ตเพื่อสกัดกั้นไม่ให้เดินทางไปลี้ภัยในประเทศที่สาม พร้อมกับขอร้องให้พันธมิตรในยุโรปช่วยกักตัวหากพบว่าเดินทางไปรอเปลี่ยนเครื่องบิน หรือเปลี่ยนแผนใช้ประเทศนั้นเป็นสถานที่ลี้ภัย หลังจากมีข่าวว่าสโนว์เดนได้เดินทางออกจากฮ่องกงด้วยเครื่องบินของแอโรว์ฟลอต ไปลงที่กรุงมอสโก เพื่อเตรียมตัวเดินทางต่อไปคิวบาก่อนจะไปขอลี้ภัยในเอกวาดอร์ ซึ่งได้อนุญาตให้จูเลียน อัสซานจ์ ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์ เข้าลี้ภัยในสถานเอกอัครราชทูตเอกวาดอร์ในอังกฤษเป็นเวลานานถึงหนึ่งปีเต็มแล้ว โดยกระทรวงต่างประเทศเอกวาดอร์ได้ทวีตผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้รับคำร้องขอลี้ภัยของสโนว์เดนแล้ว

           ผลที่เกิดขึ้นตามมาจากการแฉแผนลับสะท้านโลกก็คือ พล.อ.คีธ อเล็กซานเดอร์ ผู้อำนวยการเอ็นเอสเอต้องไปให้การต่อหน้าคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาเป็นครั้งแรกยืนยันว่า โครงการนี้สามารถสกัดกั้นการก่อการร้ายได้หลายครั้งทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับรับปากว่าจะยอมเผยแผนป้องกันการก่อการร้ายกว่า 20 แผนจากผลพวงของการสอดแนมลับ ต่อที่ประชุมลับวุฒิสภา ขณะที่โรเบิร์ต มุลเลอร์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอคุยโวว่า หากมีระบบสอดแนมเช่นนี้นานแล้ว อาจช่วยสกัดเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 ได้ด้วยซ้ำ

          ปัญหาโต้เถียงในขณะนี้ ที่คงยากหาข้อยุติได้ง่ายๆ ภายในเร็ววันก็คือ อเมริกันชนจะต้องสละความเป็นส่วนตัวหรือไม่หากอยากจะมีชีวิตอยู่ปลอดภัยไร้กังวล รวมไปถึงการถกในประเด็นที่ว่าแท้ที่จริงแล้วสโนว์เดนเป็นพระเอกหรือผู้ร้าย เป็นผู้รักชาติหรือคนทรยศ เป็นคนที่ทำให้อเมริกันปลอดภัยน้อยลง หรือช่วยให้ตาสว่างมากขึ้น